NAD+ therapy คือ
วิธีหนึ่งในการเพิ่ม NAD+ ให้กับร่างกายเพื่อฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพให้กลับมาแข็งแรงขึ้นโดยการซ่อมแซมตนเองใน ระดับ DNA ทั่วร่างกาย เป็นหนึ่งในศาสตร์ชะลอวัยที่สามารถเข้ารับการทําหัตถการได้ง่ายๆ แต่สามารถให้ผลที่ดีทั่วร่างกายตั้งแต่ระดับ DNA ผู้ที่ได้รับ NAD+ therapy จะกลับมาแข็งแรงขึ้นจากภายในสู่ภายนอก ช่วยยืดอายุขัยของเซลล์และช่วยให้ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ได้อีกด้วย

NAD+ คืออะไร?
NAD+ หรือ Nicotinamide Adenine Dinucleotide เป็นโคเอนไซม์ที่สามารถพบได้ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิดและสามารถสร้างขึ้นได้เองภายใน ร่างกาย มีบทบาทสําคัญอย่างยิ่งในกระบวนการต่าง ๆ เช่น การทําให้สารอาหารกลายมาเป็นพลังงานแก่เซลล์ ซ่อมแซม DNA ที่เกิดความ เสียหาย ควบคุมกระบวนการแก่ตัวของเซลล์โดยทํางานร่วมกับองค์ประกอบอื่นๆ ภายในร่างกายอย่าง Sirtuins และ Mitochondria

แต่เมื่ออายุมากขึ้น การมีอยู่ของ NAD+ ก็จะยิ่งลดลงไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดทําให้ไม่สามารถซ่อมแซม DNA จากความเสียหายที่เกิดขึ้น กระบวนการต่าง ๆ ที่ NAD+ เข้าไปเกี่ยวข้องจึงไม่สามารถดําเนินได้ตามปกติและก่อให้เกิดความเสียหายแก่ DNA เซลล์ และระบบภายใน ร่างกายโดยรวม

NAD+ therapy ช่วยอะไรได้บ้าง

• NAD+ therapy สามารถส่งเสริมการทํางานของระบบประสาทและสมอง
• NAD+ therapy ช่วยชะลอการเสื่อมโดยรวมภายในร่างกายอันเป็นเหตุให้เกิดความชรา
• NAD+ therapy ช่วยเพิ่มอัตราการใช้พลังงานมากขึ้น ระบบเผาผลาญทํางานดีขึ้น • NAD+ therapy ช่วยเพิ่มพลังงานแก่เซลล์
• NAD+ therapy ช่วยปรับปรุงระบบต่าง ๆ ที่สูญเสียไปจากการใช้สารเสพติด • NAD+ therapy ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง ดูอ่อนเยาว์
• NAD+ therapy ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ที่เกิดจากความชรา

NAD+ therapy ไม่เหมาะกับใคร?
ในบางคนอาจไม่เหมาะกับ NAD+ therapy เช่น ในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ โรคไต ความดันโลหิตสูง และในหญิงตั้งครรภ์หรือกําลังให้นมบุตร

NAD+ therapy มีขั้นตอนการทําอย่างไร?
ปรับอัตราการไหลของตัวยาเข้าสู่เส้นเลือดในอัตราที่เหมาะสมและรอให้ตัวยาเข้าสู่เส้นเลือดจนหมด มักใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที

การดูแลตนเองหลังทํา NAD+ therapy
เพื่อให้ NAD+ therapy สามารถเข้าไปทํางานร่วมกับ NAD+ เพื่อฟื้นฟูร่างกาย ซ่อมแซม DNA ที่เสียหายได้ดีขึ้นควรจะนอนหลับพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน

ผลข้างเคียงของ NAD+ therapy

• ความไม่สบายใจขณะทําหัตถการจนก่อให้เกิดอาการทางกาย เช่น วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด มวนท้อง แน่นหน้าอก ในส่วนตรงนี้อาจแจ้งกับผู้ ดูแลให้เดินยาช้าลงหรือผู้เข้ารับบริการอาจหาสิ่งดึงดูดอย่างอื่นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เป็นต้น

• เกิดรอยเจาะจากเข็มเดินยา หรือมีอาการปวดบริเวณที่เดินยา สามารถใช้การประคบเย็นลดอาการปวดได้ในส่วนของรอยเข็มสามารถจาง หายได้เองภายใน 2-3 วัน

NAD+ therapy ต้องหาบ่อยแค่ไหน?
ทุก 1 สัปดาห์ ต่อเนื่อง 4 ครั้ง ต่อจากนั้น ทุก 1 เดือน เพื่อคงสภาวะที่ดีที่สุด